7 ที่เที่ยวในไทย ที่สวยเทียบเท่าต่างประเทศ
"7 ที่เที่ยวในไทย ที่สวยเทียบเท่าต่างประเทศ"
วันนี้อเวนโกมี 7 สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยที่ได้รับการขนานนามว่าสวยเทียบเท่าต่างประเทศมาแนะนำให้เพื่อนๆรู้จักกันค่ะ มีที่ไหนบ้างไปชมกันเลย
1. ภูป่าเปาะ (ฟูจิเมืองเลย)
 |
| ขอบคุณภาพจาก เพจชฟูจิเมืองเลยที่เขื่อนน้ำเลย บ้านสวนปอ อำเภอภูหลวง |
ภูป่าเปาะ ตั้งอยู่ที่บ้านผาหวาย ตำบลปวนพุ อำเภอหนองหิน จังหวัดเลย จุดเด่นที่น่าสนใจของนักท่องเที่ยวก็คือ การได้ขึ้นไปชม บรรยากาศบนจุดชมวิวที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 900 เมตร สามารถมองเห็นภูหอซึ่งมีลักษณะเป็นภูเขายอดตัด หรือภูเขายอดราบโดยเฉพาะช่วงที่มีทะเลหมอกปกคลุม นักท่องเที่ยวต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวว่า คล้ายภูเขาไฟฟูจิยามาในประเทศญี่ปุ่น
2. สวนหินผางาม (คุนหมิงเมืองเลย)
 |
| ขอบคุณภาพจาก เพจสวนผาหินงามคุนหมิงเมืองไทย |
สวนหินผางาม ตั้งอยู่ในตำบลปวนพุ กิ่งอำเภอหนองหิน จังหวัดเลย เป็นภูเขาแท่งหินปูนซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ อยู่กระจายเป็นลูกๆ ใหญ่บ้างเล็กบ้างสลับกันไป บางลูกก็สามารถเดินผ่านทะลุได้ จะมีชื่อเรียกต่างๆ กันตามลักษณะรูปร่างที่ปรากฎ เช่น หินไดโนเสาร์ หน้าผาท้อแท้ ซุ้มคารวะ ถ้ำอรทัย เขาวงกต เจดีย์หิน กรอบรูปธรรมชาติ กำแพงเมืองจีน ประตูโขง หินมงกุฎ สวนหิน ซุ้มนรก รูรันตู (รูตัน) มีต้นไม้นานาพันธ์ุขึ้นแซม ซึ่งพบต้นไม้หายากและต้นไม้ยักษ์อย่างปรงเขาที่มีอายุหลายร้อยปี ที่นี่จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า คุนหมิงเมืองเลย สันนิษฐานกันว่าในอดีตเคยเป็นพื้นของท้องทะเลมาก่อน และมีอายุมากว่า 225 ล้านปี ภายในมีทางเดินสลับซับซ้อน บางช่วงดูลึกลับน่าตื่นเต้นคล้ายกับผจญภัยอยู่ในเขาวงกต บางช่วงต้องปีนป่ายเพิงหิน หรืออาจต้องมุดลอดโพรงถ้ำ
3. เขื่อนรัชชประภาหรือเขื่อนเชี่ยวหลาน (กุ้ยหลินเมืองไทย)
 |
| ขอบคุณภาพจาก เพจเขื่อนเชี่ยวหลาน จ.สุราษฎ์ธานี |
เขื่อนรัชชประภาหรือเขื่อนเชี่ยวหลาน ตั้งอยู่ในตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎ์ธานี สำหรับตัวเขื่อนนั้นเป็นเขื่อนหินแกนดินเหนียวอเนกประสงค์ สูง 95 เมตร ยาว 700 เมตร ทะเลสาบเหนือเขื่อนก็เต็มไปด้วย ภูเขาหินปูนธรรมชาติที่มีรูปร่างต่างๆ แปลกตา และเมื่อธรรมชาติได้จัดวางผืนน้ำเคียงข้างกำแพงแห่งขุนเขาหินปูนได้อย่างลงตัวราวกับบรรจงสร้างมาอย่างไรอย่างนั้น ได้ทำให้ที่นี่กลายเป็นโลกใบใหม่ที่ห่มคลุมด้วยความสงบงาม และได้รับฉายาว่าเป็นกุ้ยหลินเมืองไทย เพราะมีความสวยงามของเทือกเขาหินปูนที่เหมือนกันกับกุ้ยหลินที่ประเทศจีน
4. ขุนช่างเคี่ยน (ซากุระเมืองไทย)
ขุนช่างเคี่ยนหรือสถานีวิจัยหรือศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นสถานีวิจัยที่รวบรวมพันธุ์ไม้เมืองหนาวหลายชนิด แต่ที่เด่นที่สุดคือต้นนางพญาเสือโคร่งหรือซากุระดอย ที่จะผลิดอกอวดโฉมให้ชมกันในช่วงเดือนธันวาคม - มกราคม เรียกได้ว่าเหมือนหลงเข้าไปในเมืองญี่ปุ่นกันเลยทีเดียว
5. หาดชมดาว (แกรนด์แคนยอนเมืองไทย)
หาดชมดาวหรือแก่งชมดาว ตั้งอยู่ในหมู่บ้านโนนตาล อำเภอนาตาล จังหวัดอุบลราชธานี เป็นแนวหาดหิน แก่งหิน อันกว้างใหญ่และยาวมากหลายร้อยเมตร ซึ่งการเกิดของหินรูปพรรณสัณฐานประหลาด เกิดช่วงฤดูน้ำหลากแก่งหินเหล่านี้จมอยู่ใต้แม่น้ำโขงและด้วยแรงน้ำวนกัดเซาะ ทำให้แก่งหินกลายเป็นแอ่งเล็กใหญ่จำนวนมาก เกิดเป็นประติมากรรมหินธรรมชาติรูปร่างแปลกตาชวนให้จินตนาการ หาดชมดาวมีจุดไฮไลต์ที่สวยที่สุด ซึ่งเป็นลักษณะเป็นผาหินสูงใหญ่และเว้าแหว่งยาวคล้ายช่องแคบมีสายน้ำไหลผ่าน และมีก้อนหินเล็กกลางน้ำให้ลงไปยืนโพสต์ท่าถ่ายรูป ซึ่งได้มุมสวยเก๋ไม่เหมือนใคร ช่วงเวลาที่เหมาะจะมาเที่ยวนั่นก็คือ ตั้งแต่พฤศจิกายน - พฤษภาคม
6. สวนสนบ่อแก้ว (เกาะนามิเมืองไทย)
สวนสนบ่อแก้วตั้งอยู่ในอำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ เป็นพื้นที่ทดลองปลูกสนภูเขาชนิดต่างๆ ที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ นำพันธุ์มาจากต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย แอฟริกาใต้และไต้หวัน เพื่อทดลองหาพันธุ์ที่เหมาะสมมาเป็นไม้เบิกนำเพื่อปลูกบนป่าเสื่อมโทรมบนดอยทางภาคเหนือ ต้นสนที่นำมาปลูกมีจำนวนหลายพันต้น เรียงรายเป็นระเบียบบนลานโล่งเตียน เมื่อเดินทางผ่านมายังเส้นทางนี้จะสังเกตเห็นต้นสนเป็นจำนวนมาก แต่ที่โดดเด่นและเป็นที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวก็คงจะเป็นแนวสนหน้าถนนทางเข้าฝั่งซ้ายมือ ที่มีการปลูกเรียงไว้เป็นแนวอย่างสวยงามทั้งสองข้างทาง มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจแวะมาถ่ายภาพสวยๆ เก็บไว้เป็นที่ระลึกจำนวนมาก ความสวยงามของที่นี่ได้รับฉายาว่า เกาะนามิเมืองไทย
7. เกาะพยาม (มัลดีฟส์เมืองไทย)
เกาะพยามตั้งอยู่ที่ตำบลเกาะพยาม อำเภอเมือง จังหวัดระนอง มีพื้นที่ประมาณ 35 ตารางกิโลเมตร แต่เดิมเกาะแห่งนี้มีเรือไปกลับแค่เที่ยวเดียว ถ้าพลาดก็ต้องรอวันถัดไป ชาวบ้านจึงเรียกเกาะนี้ว่าเกาะพยายามและได้กร่อนมาเป็นเกาะพยามในปัจจุบัน ส่วนฉายามัลดีฟส์เมืองไทยที่ใครหลายคนเอ่ยขานกันนั้นมาจากบางมุมของเกาะพยาม (บริเวณ Blue sky resort) ที่เมื่อน้ำขึ้นนักท่องเที่ยวจะพบกับความสวยงามของที่พักที่อยู่กลางน้ำ โอบล้อมไปด้วยป่าชายเลน จนใครหลายคนเอ่ยกันเป็นเสียงเดียวว่านี่มันมัลดีฟส์เมืองไทย
Karn Avengo
ขุนช่างเคี่ยนหรือสถานีวิจัยหรือศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นสถานีวิจัยที่รวบรวมพันธุ์ไม้เมืองหนาวหลายชนิด แต่ที่เด่นที่สุดคือต้นนางพญาเสือโคร่งหรือซากุระดอย ที่จะผลิดอกอวดโฉมให้ชมกันในช่วงเดือนธันวาคม - มกราคม เรียกได้ว่าเหมือนหลงเข้าไปในเมืองญี่ปุ่นกันเลยทีเดียว
5. หาดชมดาว (แกรนด์แคนยอนเมืองไทย)
 |
| ขอบคุณภาพจาก เพจหาดชมดาว-หาดหินงาม |
หาดชมดาวหรือแก่งชมดาว ตั้งอยู่ในหมู่บ้านโนนตาล อำเภอนาตาล จังหวัดอุบลราชธานี เป็นแนวหาดหิน แก่งหิน อันกว้างใหญ่และยาวมากหลายร้อยเมตร ซึ่งการเกิดของหินรูปพรรณสัณฐานประหลาด เกิดช่วงฤดูน้ำหลากแก่งหินเหล่านี้จมอยู่ใต้แม่น้ำโขงและด้วยแรงน้ำวนกัดเซาะ ทำให้แก่งหินกลายเป็นแอ่งเล็กใหญ่จำนวนมาก เกิดเป็นประติมากรรมหินธรรมชาติรูปร่างแปลกตาชวนให้จินตนาการ หาดชมดาวมีจุดไฮไลต์ที่สวยที่สุด ซึ่งเป็นลักษณะเป็นผาหินสูงใหญ่และเว้าแหว่งยาวคล้ายช่องแคบมีสายน้ำไหลผ่าน และมีก้อนหินเล็กกลางน้ำให้ลงไปยืนโพสต์ท่าถ่ายรูป ซึ่งได้มุมสวยเก๋ไม่เหมือนใคร ช่วงเวลาที่เหมาะจะมาเที่ยวนั่นก็คือ ตั้งแต่พฤศจิกายน - พฤษภาคม
6. สวนสนบ่อแก้ว (เกาะนามิเมืองไทย)
 |
| ขอบคุณภาพจาก เพจสวนบ่อแก้ว นามิเมืองไทย |
สวนสนบ่อแก้วตั้งอยู่ในอำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ เป็นพื้นที่ทดลองปลูกสนภูเขาชนิดต่างๆ ที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ นำพันธุ์มาจากต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย แอฟริกาใต้และไต้หวัน เพื่อทดลองหาพันธุ์ที่เหมาะสมมาเป็นไม้เบิกนำเพื่อปลูกบนป่าเสื่อมโทรมบนดอยทางภาคเหนือ ต้นสนที่นำมาปลูกมีจำนวนหลายพันต้น เรียงรายเป็นระเบียบบนลานโล่งเตียน เมื่อเดินทางผ่านมายังเส้นทางนี้จะสังเกตเห็นต้นสนเป็นจำนวนมาก แต่ที่โดดเด่นและเป็นที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวก็คงจะเป็นแนวสนหน้าถนนทางเข้าฝั่งซ้ายมือ ที่มีการปลูกเรียงไว้เป็นแนวอย่างสวยงามทั้งสองข้างทาง มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจแวะมาถ่ายภาพสวยๆ เก็บไว้เป็นที่ระลึกจำนวนมาก ความสวยงามของที่นี่ได้รับฉายาว่า เกาะนามิเมืองไทย
7. เกาะพยาม (มัลดีฟส์เมืองไทย)
 |
| ขอบคุณภาพจาก เพจ The blue sky resort |
เกาะพยามตั้งอยู่ที่ตำบลเกาะพยาม อำเภอเมือง จังหวัดระนอง มีพื้นที่ประมาณ 35 ตารางกิโลเมตร แต่เดิมเกาะแห่งนี้มีเรือไปกลับแค่เที่ยวเดียว ถ้าพลาดก็ต้องรอวันถัดไป ชาวบ้านจึงเรียกเกาะนี้ว่าเกาะพยายามและได้กร่อนมาเป็นเกาะพยามในปัจจุบัน ส่วนฉายามัลดีฟส์เมืองไทยที่ใครหลายคนเอ่ยขานกันนั้นมาจากบางมุมของเกาะพยาม (บริเวณ Blue sky resort) ที่เมื่อน้ำขึ้นนักท่องเที่ยวจะพบกับความสวยงามของที่พักที่อยู่กลางน้ำ โอบล้อมไปด้วยป่าชายเลน จนใครหลายคนเอ่ยกันเป็นเสียงเดียวว่านี่มันมัลดีฟส์เมืองไทย
ติดตามเราได้ที่
web site : www.avengo.net
fan page : avengo-อเวนโก
facebook group : กลุ่มอเวนโก-Avengo Freedom Style สไตล์ของคนชอบเที่ยว
google+ : อเวนโก Avengo
Karn Avengo
ไม่มีความคิดเห็น: