5 เส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตรในภาคอีสาน
"5 เส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตรในภาคอีสาน"
เส้นทางที่ 1 เพชรบูรณ์-เลย "ชมไม้ดอก ไม้ผลเมืองหนาว ในดินแดนแห่งภูเขา"
เพชรบูรณ์และเลย เป็นจังหวัดที่อยู่บนขอบสุดของภาคอีสาน ภูมิประเทสส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนราวกับทะเลภูเขา ประกอบกับอากาศที่หนาวเย็นทำให้พื้นที่ตรงนี้สามารถปลูกพืชผลและไม้เมืองหนาวได้เป็นอย่างดี เช่น สาลี่ กุหลาบ องุ่น เป็นต้น
เส้นทางที่ 2 อุดรธานี-หนองคาย "เลาะเลียบแหล่งเกษตรริมน้ำโขง"
ด้วยพื้นที่ที่ทอดยาวไปตามลำน้ำโขงถึง 320 กิโลเมตร ทำให้ที่นี่มีสภาพภูมิอากาศแตกต่างจากจังหวัดอื่นในภาคอีสาน เพราะค่อนข้างมีฝนตกชุก ปริมาณน้ำฝนเทียบเท่ากับภาคตะวันออก ส่งผลให้พืชผลทางการเกษตรของที่นี่ผสมผสานไปด้วยผลไม้ทางภาคตะวันออก เช่น ลองกอง มังคุด และยังมีดอกไม้เมืองหนาวให้ได้ชมกันอีกด้วย
เส้นทางที่ 3 ขอนแก่น "ออนซอนขอนแก่น ดินแดนไดโนเสาร์"
ลักษณะภูมิประเทศของจังหวัดขอนแก่นค่อนข้างหลากหลาย ประกอบไปด้วยภูเขาหินทรายยอดตัด และเทือกเขาหินปูนสลับซับซ้อน และที่นี่ยังเป็นแหล่งขุดพบไดโนเสาร์ที่แรกของประเทสไทยอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นเส้นทางที่นักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวชมการเกษตรและศึกษาประวัติศาสตร์ได้อีกด้วย
เส้นทางที่ 4 สุรินทร์ "เยือนแหล่งเกษตรอีสานใต้ เยี่ยมกรายวัฒนธรรมเขมรสูง"
สุรินทร์ เป็นดินแดนแห่งอารยธรรมขอมโบราณ ที่หลงเหลือร่องรอยอยู่ในรูปของปราสาทหินพิมาย ภูมิปัญญาของการทำเกษตรของคนในชุมชนส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับสมุนไพร และนอกจากนี้ยังมีการนำผลผลิตจากธรรมชาติและผืนดินมาสร้างเป็นงานหัตศิลป์อีกด้วย เช่น การทำผ้าไหมไทย เป็นต้น
เส้นทางที่ 5 สระบุรี-ลพบุรี-นครราชสีมา "ดินแดนแห่งทุ่งทานตะวัน"
ผืนป่าดงพญาเย็นและดงพญาไฟในอดีต ภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่ม เป็นแหล่งกำเนิดแม่น้ำลำธาร กลายเป็นพื้นที่เกษตรกรรมที่สำคัย ทั้งพืชไร่ ผลไม้ และไม้ดอกไม้ประดับ ที่เด่นๆ เลยก็คือ ทุ่งทานตะวัน สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่นักท่องเที่ยวแวะเวียนมาชมอย่างไม่ขาดสาย
Karn Avengo
ภาพจาก เพจภูทับเบิก เพชรบูรณ์ |
เพชรบูรณ์และเลย เป็นจังหวัดที่อยู่บนขอบสุดของภาคอีสาน ภูมิประเทสส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนราวกับทะเลภูเขา ประกอบกับอากาศที่หนาวเย็นทำให้พื้นที่ตรงนี้สามารถปลูกพืชผลและไม้เมืองหนาวได้เป็นอย่างดี เช่น สาลี่ กุหลาบ องุ่น เป็นต้น
เส้นทางที่ 2 อุดรธานี-หนองคาย "เลาะเลียบแหล่งเกษตรริมน้ำโขง"
ภาพจาก เพจทะเลบัวแดง กุมภวาปี อุดรธานี |
ด้วยพื้นที่ที่ทอดยาวไปตามลำน้ำโขงถึง 320 กิโลเมตร ทำให้ที่นี่มีสภาพภูมิอากาศแตกต่างจากจังหวัดอื่นในภาคอีสาน เพราะค่อนข้างมีฝนตกชุก ปริมาณน้ำฝนเทียบเท่ากับภาคตะวันออก ส่งผลให้พืชผลทางการเกษตรของที่นี่ผสมผสานไปด้วยผลไม้ทางภาคตะวันออก เช่น ลองกอง มังคุด และยังมีดอกไม้เมืองหนาวให้ได้ชมกันอีกด้วย
เส้นทางที่ 3 ขอนแก่น "ออนซอนขอนแก่น ดินแดนไดโนเสาร์"
ภาพจาก เพจอุทยานแห่งชาติน้ำพอง |
ลักษณะภูมิประเทศของจังหวัดขอนแก่นค่อนข้างหลากหลาย ประกอบไปด้วยภูเขาหินทรายยอดตัด และเทือกเขาหินปูนสลับซับซ้อน และที่นี่ยังเป็นแหล่งขุดพบไดโนเสาร์ที่แรกของประเทสไทยอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นเส้นทางที่นักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวชมการเกษตรและศึกษาประวัติศาสตร์ได้อีกด้วย
เส้นทางที่ 4 สุรินทร์ "เยือนแหล่งเกษตรอีสานใต้ เยี่ยมกรายวัฒนธรรมเขมรสูง"
ภาพจาก เพจข่าวเมืองช้าง |
สุรินทร์ เป็นดินแดนแห่งอารยธรรมขอมโบราณ ที่หลงเหลือร่องรอยอยู่ในรูปของปราสาทหินพิมาย ภูมิปัญญาของการทำเกษตรของคนในชุมชนส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับสมุนไพร และนอกจากนี้ยังมีการนำผลผลิตจากธรรมชาติและผืนดินมาสร้างเป็นงานหัตศิลป์อีกด้วย เช่น การทำผ้าไหมไทย เป็นต้น
เส้นทางที่ 5 สระบุรี-ลพบุรี-นครราชสีมา "ดินแดนแห่งทุ่งทานตะวัน"
ภาพจาก เพจ Rai Kusuma Resort |
ผืนป่าดงพญาเย็นและดงพญาไฟในอดีต ภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่ม เป็นแหล่งกำเนิดแม่น้ำลำธาร กลายเป็นพื้นที่เกษตรกรรมที่สำคัย ทั้งพืชไร่ ผลไม้ และไม้ดอกไม้ประดับ ที่เด่นๆ เลยก็คือ ทุ่งทานตะวัน สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่นักท่องเที่ยวแวะเวียนมาชมอย่างไม่ขาดสาย
ติดตามเราได้ที่
web site : www.avengo.net
fan page : avengo-อเวนโก
facebook group : กลุ่มอเวนโก-Avengo Freedom Style สไตล์ของคนชอบเที่ยว
google+ : อเวนโก Avengo
Karn Avengo
ไม่มีความคิดเห็น: