avengo

มรกตอันดามัน สวรรค์เกาะพีพี


"มรกตอันดามัน สวรรค์เกาะพีพี"




แหล่งถ่านหิน ถิ่นหอยเก่า
เขาตระหง่าน ธารสวย 
รวยเกาะ เพาะปลูกปาล์ม
งามหาดทราย ใต้ทะเลสวยสด
มรกตอันดามัน สวรรค์เกาะพีพี




เขาว่ากันว่าใครมาเที่ยวกระบี่แต่ไม่ได้ไปเยือนเกาะพีพีแปลว่ามาไม่ถึง
วันนี้อเวนโกจึงอาสาพาทุกท่านไปสัมผัสความสวยงามของท้องทะเลแห่งนี้
ไปกันเล้ยยยย




     เริ่มต้นการเดินทางด้วยการซื้อทัวร์แบบวันเดย์ทริป ราคาอยู่ที่ 1,500 บาท (สปีทโบ๊ท) มีรถรับส่งจากโรงแรม - ท่าเรือ รถจะมารับประมาณ 8 โมงเช้า เรือออกจากท่าประมาณ 9 โมง การเดินทางไปยังจุดแรกใช้เวลาประมาณ 45 นาที

     จุดแรกคือ "อ่าวมาหยาหรือพีพีเล" สาเหตุที่เรียกว่าพีพีเลคือ บนเกาะจะไม่มีโรงแรม รีสอร์ท ร้านค้า ไม่มีคนอาศัยอยู่ ยกเว้นเจ้าหน้าที่อุทยาน ก็คือมีแต่ทะเลนั่นเอง 

     เรือจะจอดให้นักท่องเที่ยวลงบริเวณชายหาดแล้วออกไปจอดลอยลำอยู่ข้างนอก เนื่องจากบริเวณหน้าหาดมีเรือเข้าจอดเยอะมาก จุดนี้คือนักท่องเที่ยวควรเกาะติดไกด์ไว้ให้ดีนะคะ เพราะนอกจากบนเกาะจะไม่มีที่พักที่กินแล้ว ยังไม่มีสัญญานอีกด้วย ธรรมชาติของแท้




     หลังจากลงที่หน้าหาดแล้วไกด์จะพาเราเดินเท้าเข้าไปท้ายเกาะประมาณ 10 นาที เพื่อไปชมสถานที่ถ่ายทำหนังฮอลลีวู้ดเรื่อง "เดอะบีช" นักแสดงนำก็คือ "ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ" เรียกได้ว่าหนังเรื่องนี้เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวจากยุโรปเดินทางเข้ามาเพื่อมาตามรอยเดอะบีชกันเลยทีเดียว

บริเวณหน้าหาดสามารถลงเล่นน้ำในพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่กั้นเชือกไว้เท่านั้นค่ะ เพราะด้านนอกจะมีเรือเข้ามาจอดเพื่อให้นักท่องเที่ยวลงที่เกาะไม่ขาดสาย อันตรายมากเด้อ

จุดต่อไปที่ไกด์จะพาเราไปก็คือ "ถ้ำไวกิ้ง" ภายในถ้ำจะมีภาพเขียนสมัยโบราณรูปถ้ำไวกิ้ง บ้างก็บอกว่าเป็นภาพเขียนจากฝีมือโจรสลัด นอกจากนี้ยังพบภาพเขียนตัวอักษรอาหรับโบราณอีกด้วย แต่ปัจจุบันถ้ำไวกิ้งไม่ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมแล้วนะคะ เหมือนว่าตอนนี้จะกลายเป็นสัมปทานรังนกนางแอ่นไปแล้ว




จากนั้นไกด์จะพาเรานั่งเรือเข้าไปใน "ปิเล๊ะ ลากูน" 

คำว่า ปิเล๊ะ เป็นภาษามาลายู แปลว่าห้อง ปิเล๊ะ ลากูนก็คือ ทะเลที่มีลักษณะคล้ายกับห้อง มีทางเข้า-ออกแค่ทางเดียว บริเวณโดยรอบจะโอบล้อมด้วยภูเขาหินปูน น้ำใสมาก สามารถมองเห็นพื้นดินด้านล่าง แต่น้ำไม่ได้ตื้นนะจ๊ะ กระโดดลงไปก็จมเหมือนกันนะ 5555555


น้ำก็จะใสประมาณนี้


หลังจากนั้นไกด์จะพาเราไปดำน้ำจุดแรกก่อน ประมาณ 30-40 นาที ก่อนจะพาไปกินข้าวกันที่เกาะพีพีดอน เกาะพีพีดอนก็จะมีร้านค้า ที่พัก ท่าเรือ ร้านขายของฝากของที่ระลึกมากมาย อ๋อ ลืมบอก ราคาทัวร์ที่เราซื้อมารวมอาหารเที่ยงแบบบุฟเฟ่ต์ด้วยนะคะ หลังจากกินข้าวเสร็จก็ตามอัธยาศัยเลย ใครจะไปช้อปปิ้งก็ได้แต่ต้องจำทางกลับให้ได้นะคะ กลับมาให้ทันเวลานัดหมายด้วย เพราะไม่อย่างนั้นละก็โดนทิ้งแน่ หาเรือกลับเองเด้อ


วิวพ้อย


จากนั้นไกด์ก็จะพาเราไปดำน้ำจุดที่สอง ปะการังที่นี่ถือว่าอุดมสมบูรณ์มากค่ะ สำหรับเรือลำอื่นเราไม่แน่ใจว่าเป็นยังไงนะคะ แต่เรือลำที่เราไปเขาจะไม่ทิ้งสมอลงในแนวปะการังค่ะ ไกด์จะดำน้ำลงไปเพื่อเอาเชือกไปผูกกับไม้หรือโขดหินด้านล่าง ถือเป็นเรื่องดีๆค่ะ เราประทับใจมาก




ดำน้ำกันจนเหนื่อยแล้วก้มาถึงที่สุดท้าย นั่นก็คือ "เกาะไผ่" ตรงนี้ก็จะให้นักท่องเที่ยวพักผ่อนเล่นน้ำตามอัธศัยในเขตพื้นที่ที่อนุญาตให้เล่นนะคะ สำหรับใครที่อยากมาตั้งแคมป์ก็สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่บนอุทยานบนเกาะไผ่หรือติดต่อกับบริษัททัวร์ได้เลย


ขอบคุณภาพจากอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา หมู่เกาะพีพี


เสร็จสิ้นโปรแกรมทัวร์ ถึงท่าเรือประมาณ 5 โมงเย็น มีรถไปส่งที่พักค่ะ



📍 ปล. ใครไม่อยากไปกับทริปทัวร์สามารถซื้อตั๋วเรือเฟอร์รี่ข้ามเกาะไปยังเกาะพีพีดอน และสามารถเหมาเรือหางยาวจากพีพีดอนไปยังพีพีเล อ่าวลิง อ่าวต่างๆในละแวกนั้นได้ค่ะ

📍 ครั้งหน้าอเวนโกจะพาไปที่ไหนอย่าลืมติดตามกันนะคะ

































ไม่มีความคิดเห็น:

ริมแม่น้ำรีสอร์ท

"ริมแม่น้ำรีสอร์ท"      อเวนโกพาเพื่อนๆ ไปนอนฟังเสียงน้ำไหลที่ “ริมแม่น้ำ รีสอร์ท” บ้านพักติดริมแม่น้ำ พร้อมลานทำก...

ขับเคลื่อนโดย Blogger.